สวัสดีบุรีรัมย์ ทริปนี้เป็นเที่ยวบินที่ 57 ของผม พิเศษที่ในครั้งนี้มีโอกาสเดินทางมาทำงานที่บุรีรัมย์ ในบ่ายวันเสาร์ ของสัปดาห์มาฆบูชา ที่หยุดยาวตั้งสามวัน ผมเลยจำเป็นต้องเดินทางกลับมาก่อน จะว่าไปก็สุดติ่งเหมือนกัน เพราะเดินทางออกจากกรุงเทพมาตอน 7 โมงเช้า มาถึงบุรีรัมย์ บ่ายโมง..และห้าโมงเย็นก็ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ รวมเป็นเวลา 4 ชั่วโมงถ้วน ..ถ้าคิดว่าสั้นไปก็ยังมีทริปเชียงรายไปแล้วกลับ ที่ยังไม่มีทริปไหนทำลายสถิติลงได้ ^^
ออกเดินทางกันเถอะ ถึงเวลา 5 โมงเย็นรถตู้บริษัทก็รีบวิ่งมาส่งผมที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ จากในตัวเมืองมาสนามบินค่อนข้างใช้เวลา พอสมควรคือ ราวๆครึ่งชั่วโมงกับระยะทาง 30 กิโลเมตร ตอนที่มาถึงยังโชคดีที่ยังพอมีแสงให้พอถ่ายรูปได้บ้าง
ถ่ายจากลานจอดรถ พอเดินข้ามทางม้าลายเข้ามาในอาคารผู้โดยสารก็จะเจอกับศิลปอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์
หอบังคับการบินอยู่ทางด้านซ้ายมือ
ภายในท่าอากาศยานบุรีรัมย์
รับตั๋วสลิป มีสองใบ ใบนึงสำหรับเจ้าหน้าที่ และอีกใบสำหรับผู้โดยสาร
ห้องรับรองผู้โดยสารขอออก พอใกล้เวลาเดินทางจะมีประกาศเรียกให้ผู้โดยสารเที่ยวบินนั้น ๆ ผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่ และเข้าไปนั่งรอด้านใน เพื่อรอการเรียกขึ้นเครื่องต่อไป
Boarding Time ทันทีที่เครื่องมาถึงจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์แบบ Turboprop ดังเล็ดลอดเข้ามาในอาคารผู้โดยสารกันเลยทีเดียว
เมื่อผ่านการตรวจเรียบร้อยแล้ว เราก็มานั่งรอด้านในเพลินๆ มีทีวีให้ดูฆ่าเวลาระหว่างที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นกำลังโหลดผู้โดยสารขาเข้า และสัมภาระลงจากเครื่องให้เรียบร้อย
ผู้ที่โดยสารพร้อมเด็กเล็ก และคนชรา สามารถขึ้นเครื่องได้ก่อน ตอนนี้ผมประทับใจที่เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือกับผู้โดยสารสูงอายุได้ดีครับ แต่ถึงยังไงเราก็ควรต้องแจ้งตั้งแต่ซื้อตั๋วในเว็บ หรือหน้าเคาน์เตอร์นะครับว่า เราต้องการรถเข็น เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เตรียมรถไว้ให้ทั้งต้นทาง และปลายทาง
ครั้งที่สองกับ ATR 72-500
Selfie กับ นกสายลม(HS-DRD)
จริง ๆ ผมก็ชอบเครื่องยนต์แบบ Turboprop นะ คราวนี้ผมเลยนั่ง 6A ข้างๆใบพัดซะเลย ฮ่าๆๆ
รถบันไดไม่ต้อง เราเตรียมมาเอง !!!
รูปนี้ถ่ายแบบ Panorama
Welcome on board
แน่นอนว่า ATR 75-500 จัดที่นั่งเป็นแบบ 2-2 ระหว่างรอผู้โดยสารด้านหน้า เก็บสัมภาระ ก็ถ่ายรูปไปพรางๆ ตรงที่นั่ง 12DE
เสน่ห์ของเครื่องยนต์แบบ Turboprop
SAFETY ON BOARD ATR 72-500
ที่นั่งข้างผม และด้านหน้าว่าง สรุปแล้วแถวนี้นั่งกับหลวงลุง 2 คน
ลองเปิดไฟให้สว่างขึ้นอีกหน่อย ก็จะเห็นว่าสูง 175 สามารถนั่งได้สบายๆครับ
Nok Smile Shop และ JibJib In-Flight Magazine
หลังจากที่เครื่องขึ้นไปได้สักพักก็ได้เวลาอาหาร
ภายในกล่องอาหารจะมี นกชื่นใจ และนกขนม กินแล้วอยากน้ำขึ้นมาทันที ยิ่งอากาศแห้งๆด้วยแล้ว
ได้เวลาสำรวจห้องน้ำ
พอเข้ามาในห้องน้ำก็รู้ได้ทันทีว่า นกสายลม ลำนี้บินอพยพมาจากอินเดีย เหมือนกับของกาน์ตแอร์ที่ภายในห้องน้ำมีภาษาฮินดี
เหมือนโดเรม่อนถูกอัดอยู่ในช่องใส่ทิชชู่
ถ้านั่งทำธุระแล้วอย่าลืมสังเกตุสัญญาณแจ้งเตือนนะครับ หากมีสัญญาณรัดเข็มขัด แปลว่าเราต้องรีบปาด แล้วกลับไปนั่งที่ให้ไวที่สุด เพื่อความปลอดภัยของเราเอง
Landed @ DMK
ต้องขอบคุณลูกเรือนะครับที่เป็นธุระในการนำ Log Book ไปให้กัปตันเซ็นต์ให้ และนำกลับมาคืนให้หลังเครื่องถึงหลุมจอดเรียบร้อยแล้ว
สรุป
ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และเป็นครั้งแรกที่มาจังหวัดนี้ด้วย ถึงแม้จะเป็นเวลาแค่ 4 ชั่วโมงก็ตาม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ แต่ถ้ามีโอกาสคราวหน้าต้องมาลอง Q400 มาบุรีรัมย์บ้าง
Note
Phichya Laemluang
11 Feb 2016