First Flight THAI’s A350-900 XWB

เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเที่ยวบินแรกของเครื่องบิน ชนิดสองทางเดิน เป็นอื่นไปไม่ได้ นั่นก็คือ Airbus A350XWB ลำล่าสุดของการบินไทย ที่จะเข้ามาประจำการในฝูงบิน เพื่อทดแทนลำเก่าที่กำลังจะทยอยปลดประจำการในอนาคตอันใกล้นี้

A350XWB Schematic

ทำไมต้องเที่ยวบินแรก ?

เป็นคำถามที่โดนถามบ่อยมาก ถึงมากที่สุดดดดดดครับ เหตุผล(แบบเข้าข้างตัวเอง 555+ )คือ….เป็นช่วงเดียวที่สามารถใช้เงินพันกว่าบาท เพื่อจะได้นั่งเครื่องบินรุ่นนี้ ในช่วงทดลองการบินภายในประเทศ แต่….ถ้าพ้นช่วงทดลองบินในประเทศไปแล้ว อาจจะต้องใช้เงินเกิน สองหมื่นบาท เพื่อใช้บริการเครื่องรุ่นนี้ของการบินไทย สำหรับการบินไปยังเมลเบิร์น(รูทที่การบินไทยประกาศรูทแรก) …หรือถ้าเราจะนั่ง A350 ของ Cathay Pacific ก็ได้ แต่อารมณ์คงจะคนละฟิลด์กัน แถมราคาก็ยังสูงพอสมควรเช่นกัน

 

เริ่มต้นการเดินทาง

วันที่ 4 กันยายน 2259 เป็นวันที่ การบินไทยได้นำ Airbus A350-XWB ทะเบียน HS-THB มีนามพระราชทาน “วิเชียรบุรี Wichian Buri“ทำการบินเที่ยวบินแรกอย่างเป็นทางการ จากในรูปนี้นอกจากผู้โดยสารแล้วยังมีเหล่า Spotter และผู้ที่ชอบการบินมารวมตัวกันในวันนี้อย่างหนาตา ถ้าพูดเอาฮาก็คือ หลายคนไม่มีมีธุระกงการอะไรที่เชียงใหม่ แต่อยากไปลองเครื่องใหม่ ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น 😀

” Airbus A350XWB HS-THB Wichian Buri “

 

Check In

ได้เวลา Check In ตรงนี้มีทริคเล็ก ๆ น้อยๆ มากฝากถ้าใครไม่อยากโดนฉีก Boarding Pass ก็สามารถยื่น QR Code พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางได้เช่นกันครับ สรุปคือผู้โดยสารสามารถ แสดงตั๋วได้ 3 วิธีคือ

  1. ขอรับ Boarding Pass ที่เป็นตั๋วกระดาศยาว ๆ ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน
  2. ปริ้นตั๋วจากเว็บ ลงกระดาษ A4
  3. QR Code จากโทรศัพท์มือถือ

 

เมื่อผ่านการตรวจตั๋วจากเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ได้เวลาเดินเข้าสู่งวงช้างที่เชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารและเครื่องบินไว้

รูปแรกจากกล้อง หลังจากที่นั่งประจำที่ ปลายปีกสวยมาก จะว่าไปก็เข้ากับการบินไทย ลักษณะคล้ายกับการดัดมือของนางลำ 😀 ยิ่งเวลาอยู่บนฟ้า สีม่วง ทองโดนแดด จะเด่นขึ้นมาก

ทำมั๊ยยังไม่บินเลย

รูปนี้แคปมาจากเฟส แสดงว่าไม่ใช่แค่พวกผมที่ตั้งตารอของความพิเศษในไฟล์ทนี้ เช่นเดียวกัน มีอีกหลายคนที่เชียงใหม่ และที่ต่าง ๆ เฝ้าคอยผ่านเช็คผ่านโปรแกรม ว่าเครื่องทะยานขึ้นฟ้าแล้วหรือยัง และผู้โดยสารทุกท่านในวันนี้ คุณคือคนแรกที่ได้นั่ง Seat No. นั้นๆอย่างเป็นทางการ ต่อจากนี้อีกสิบ หรือยี่สิบปี ที่เครื่องลำนี้จะอยู่กับการบินไทย และให้บริการผู้โดยสารไปอีกหลายหมื่น หลายแสนคน ตลอดอายุของเครื่องลำนี้

 

เพื่อนร่วมทางที่ต่างมาเจอ และทำความรู้จักกันในเที่ยวบินนี้

 

สิ่งที่หายไปก็คือไม่มีช่องแอร์ส่วนตัวอีกต่อไป จะใช้เป็นช่องแอร์ยาวขนานไปกับช่องเก็บสัมภาระเลย ส่วนหน้าจอแสดงสถานะก็เปลี่ยนเป็นจอ OLED ทั้งหมด ส่วนตัวผมว่ามันเล็กไปนิดนึง

คู่มือความปลอดภัย

รีโมทสำหรับจอ IFE มีช่องให้รูทการ์ดแถบแม่เหล็กด้วย

 

มี Wi-Fi ให้บริการด้วย เรียกว่าบิ้วอินมากับเครื่องแล้ว ส่วนรูปทางขวามีฮุก กับสำหรับแขวนของด้วย

ที่พักเท้าสามารถพับเก็บได้ และส่วนที่วางเท้า(สีดำ) เป็นอิสระจากกัน

 

Push Back-> Take Off ได้เวลาออกเดินทาง

ม่วงทอง สะท้อนแสงแดดจะสวยมาก

หลังจากที่สัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ลูกเรือก็รีบให้บริการอาหาร เนื่องจากเที่ยวบินในประเทศใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ทุกอย่างจึงอาจจะดูเร่งรีบไปบ้าง แต่ก็ไม่ขาดตกบกพร่องอะไรครับ บริการดีใช้ได้เลย

อาหารร้อนที่ให้บริการ สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ

ขอกาแฟเพิ่ม รสชาติใช้ได้(หรืออาจจะหิว มากกว่า) ฮ่าๆๆ

ใกล้ถึงเชียงใหม่แล้ว ได้เวลาลดระดับเพดานบิน และเตรียม Landing

Touchdown

หลังจากที่ล้อแตะพื้น เครื่องก็ค่อย ๆ Taxi ไปยังเกท

เครื่องรุ่นนี้ได้ติดตั้งกล้องด้านหลังมาด้วย ผู้โดยสารสามารถดูมุมมองนี้ผ่านจอ IFE ได้เลย

ก่อนลงก็ขอถ่ายรูปร่วมกับลูกเรือเป็นที่ระลึก 1 รูป 😀

ได้ Log Book คืนมาพร้อมลายเซ็นต์กัปตัน อิษฎ์ ศิรสวัสดิ์

สุดท้ายนี้เป็นวิดีโอที่บันทึกไว้ตั้งแต่เช็คอิน จนถึงเชียงใหม่ครับ


Flight No. 45/1000
Date : 4 September 2016
Phichya Laemluang

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *